วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

โครงการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาการสื่อสารก้าวสู่การเป็นพลเมืองอาเซียน


๑. ชื่อโครงการ
โครงการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาการสื่อสารก้าวสู่การเป็นพลเมืองอาเซียน
๒. หลักการและเหตุผล
                   ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้เป็นภาษากลางในการติดต่อสื่อสารกันทั่วโลกมาเป็นระยะเวลานาน และภาษาอังกฤษก็กำลังจะมามีบทบาทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเกิดการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนระหว่างประเทศสมาชิกในภูมิภาคในปี พ.. 2558 โดยกฎบัตรอาเซียนข้อ 34 บัญญัติว่า  “The working language of ASEAN shall be English” “ภาษาที่ใช้ในการทำงานของอาเซียนคือภาษาอังกฤษดังนั้นภาษาอังกฤษจึงเป็นเครื่องมืออันดับหนึ่งสำหรับพลเมืองอาเซียนในการสื่อสารและเป็นภาษาที่สองของชาวอาเซียนจะต้องใช้เคียงคู่กับภาษาที่หนึ่งอันเป็นภาษาประจำชาติ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษจึงมีความสำคัญมากในการพัฒนาพลเมืองอาเซียนให้มีทักษะในการสื่อสารและเสริมสร้างความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน อีกทั้งยังเป็นการดำเนินงานตามนโนบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๑      
กศน.ตำบลโพนสูงโดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการใช้ภาษาอังกฤษโดยการบูรณาการ ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ตลอดจนทักษะการคิดไว้ด้วยกัน โดยผ่านโครงการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาการสื่อสารก้าวสู่การเป็นพลเมืองอาเซียน อีกทั้งเสริมสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษนี้ขึ้นเพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษและเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันต่อไป

๓. วัตถุประสงค์
๑. เพื่อให้นักศึกษามีเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น
2. เพื่อให้นักศึกษาสามารถออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องตามเกณฑ์ที่กำหนดตามรายวิชา

๔. เป้าหมาย
๔.๑เชิงปริมาณ
                    นักศึกษา กศน.ตำบลโพนสูง                  จำนวน    ๕๙   คน      
                   
๔.๒ เชิงคุณภาพ                                                                                                                    นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนได้อย่างถูกต้องรวมทั้งมีความตระหนัก
และมีเจตคติที่ดีเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนมากขึ้  


















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น